ฮือฮา เลขหางประทัด งานนมัสการหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ ตรงกันทั้ง 2 หาง

ฮือฮา เลขหางประทัด งานนมัสการหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ ตรงกันทั้ง 2 หาง

เลขหางประทัด

ฮือฮา เลขหางประทัด งานนมัสการหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร สุพรรณบุรี เลขสวยตรงกันทั้ง 2 หาง

วานนี้ (12 พ.ย.67) ที่วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จังหวัดสุพรรณบุรี นายเชษฐา ขาวประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประธานเปิดงานนมัสการปิดทองหลวงพ่อโตและเทศกาลลอยกระทง ซึ่งมีพระพรหมโมลี กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค 5 เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ พระธรรมพุทธิมงคล ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 14 เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

โดยช่วงเช้าได้มีนางรำจิตอาสาจากจังหวัดสระบุรี สมุทรสาคร นครปฐม ราชบุรี อ่างทองและสุพรรณบุรี รวมกว่า 300 คน รำบวงสรวงถวายหลวงพ่อโต บริเวณหน้าวิหารหลวงพ่อโต ซึ่งจัดให้มีการรำบวงสรวงถวายหลวงพ่อโตเป็นครั้งแรก ที่มีนางรำจากจังหวัดต่างๆ มารวมตัวกันมากที่สุดถึง 300 คน

และแล้ว เวลาที่เหล่านักเสี่ยงโชครอคอยก็มาถึง หลังเสร็จสิ้นพิธีเปิดงานนมัสการปิดทองหลวงพ่อโต ได้มีการจุดประทัดบวงสรวงเฉลิมฉลอง 2 หมื่นนัด ซึ่งหลังสิ้นเสียงประทัดชาวบ้านต่างฮือฮา เลขหางประทัด 2 เลข ได้เลข 888 ตรงกันทั้ง 2 หาง

งานนมัสการปิดทองหลวงพ่อโต จะมีจนถึงวันที่ 16 พ.ย.67 ภายในงานมีมหรสพ ดนตรี ลิเก ชื่อดังให้ชมฟรี ทุกค่ำคืน มีร้านค้า ของกิน ของใช้ สินค้าโอทอป ของดีมาจำหน่ายมากมาย

ทั้งนี้ ตามประวัติ “วัดป่าเลไลยก์” ตั้งวัดเมื่อปี พ.ศ.1369 โดยทางวัดป่าเลไลยก์ ได้ตั้งเป้าไว้ 2 ปีหน้า วัดป่าเลไลยก์ ครบ 1,200 ปี จะมีนางรำสายบุญมาร่วมพิธีรำบวงสรวงหลวงพ่อโตมากถึง 1,200 คน เพื่อเฉลิมฉลอง 1,200 ปี วัดป่าเลไลยก์ อย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งตอนนี้ทางวัดป่าเลไลยก์ ได้เปิดโบสถ์มอญ มหาอุตม์อายุเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย สร้างโดยกลุ่มชนชาวมอญมีอายุ ประมาณ 713-1,194 ปี ที่ปิดตายห้ามเข้ามากว่า 23 ปี ให้ชาวบ้าน นักท่องเที่ยวได้เข้าชมศิลปะความงามของพระประธานและความเข้มขลัง ศักดิ์สิทธิ์ภายในเสาหลักวัดที่หาชมได้ยาก โดยปกติโบสถ์มอญ มหาอุตม์จะเปิดใช้ทำสังฆกรรมของพระภิกษุสงฆ์เท่านั้น เป็นที่พระภิกษุเรียนวิปัสสนากัมมัฏฐาน ตลอดจนเป็นที่ฝึกฝนร่ำเรียนวิชาคาถาอาคมปลุกเสกเครื่องรางของขลังและศาตราวุธต่างๆ ของเกจิอาจารย์ตลอดถึงแม่ทัพนายกองผู้เรืองวิชาในยุคก่อน ในตำนานว่ากันว่าขุนแผนก็ใช้สถานที่นี้ฝึกฝนและเรียนวิชาคาถาอาคมตั้งแต่ตอนบวชเณร

เนื่องด้วยลักษณะตัวโบสถ์มีประตูเข้าออกแค่ทางเดียวบานเดียวไม่มีหน้าต่าง เป็นที่มาของคำว่าโบสถ์มหาอุตม์ จึงมีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ สำหรับทำพิธีต่างๆ แม้แต่ยุคสมัยเสือต่างๆ ในสุพรรณบุรี หรือแม้แต่เหล่าตำรวจมือปราบต่างก็เข้ามาฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อถิร อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์ พระเกจิดังแห่งเมืองสุพรรณบุรี และได้ร่ำเรียนวิชาคาถาอาคมกันที่โบสถ์มอญมหาอุตม์แห่งนี้ด้วยเช่นกัน

ขอขอบคุณที่มา : sanook.com